รีวิวสินค้า

USB Audio Interface ดีๆที่รองรับการใช้งานบน iPad

โดย Millionhead ในวันที่ 03 ต.ค. 2559, 12:23 น.

image

   สวัสดีครับ ผม Admin Jamez วันนี้ผมมีสินค้าสินค้ามานำเสนอสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำเพลง ผ่าน iPad โดยรุ่นที่จะทำการรีวิวในวันนี้ ซึ่งเป็น Audio Interface ทางฝั่งของ PreSonus ที่ผลิตจากประเทศอเมริกา ครับ และ Series ที่หยิบมาทำการรีวิวในครั้งนี้จะอยู่ในตระกูล  AudioBox i Series ก็จะมีทั้งหมดอยู่ 3 รุ่นดังนี้ครับ

1. AudioBox iOne

2. AudioBox iTwo

3. AudioBox iTwo Studio

ซึ่งเป็น Audio Interface ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง PC/Mac และ iPad โดย Highlight ของทั้ง 3 รุ่น จะอยู่ที่คนที่ชื่นชอบการทำเพลง และ บันทึกเสียงกับ iPad เป็นชีวิตจิตใจครับ เพราะนอกจากมันจะมีช่องต่อ USB เข้าสู่คอมพิวเตอร์และ ยังมีช่อง Device ที่ทำออกมาสำหรับเชื่อมต่อเข้ากับ iPad โดยตรงได้อีกด้วย โดยไม่ต้องไปหาซื้อหัวแปลง Camera kit ให้วุ่นวาย เหมือนกับอุปกรณ์อื่นๆ เลยครับ

เพียงแค่มี iPad พร้อมกับชุดสายชาร์จแบตเตอร์รี่ ของ iPad ก็สามารถที่จะใช้งานได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสาย USB เข้ากับ Power Adapter ของ iPad แล้วเสียบกับปลั๊กไฟ ก็จะสามารถใช้งาน Audio Interface ได้เลยครับ หรือหากใช้งานนอกสถานที่ ไม่มีปลั๊กไฟ แต่มี Power Bank เป็นตัวจ่ายไฟ ก็ใช้งานนอกสถานที่ได้เลยครับ ต้องบอกว่าสะดวกกับการใช้งานมากๆครับ ต่อไปเรามาดูกันที่ Audio Interface รุ่นแรกกันเลยครับ ตัวนี่มีชื่อรุ่นว่า “AudioBox iOne” ครับ

 

รูปนี่เป็นการเปิดกล่อง AudioBox iOne ออกมาครับ ก็จะพบกับ ตัวเครื่อง, สาย USB และคู่มือการใช้งานครับ

 

ด้านหน้าของ AudioBox iOne ครับ

PreSonus : AudioBox iOne

  • ตัวนี้เป็น USB Audio Interface ขนาด 2-in/2-out ครับ
  • โดยมีความละเอียดเสียงอยู่ที่ 24-bit/96kHz
  • มาพร้อมกับ 1 ปรีไมค์ แบบ XLR และ 1 ช่อง Instrument Input แบบ TRS สำหรับเครื่องดนตรี
  • โดยปุ่มด้านหน้าเครื่อง ก็จะมีปุ่ม Gain สำหรับ 2 Channel
  • ปุ่มจ่ายไฟ Phantom Power 48V สำหรับจ่ายไฟให้กับไมค์ Condenser
  • ปุ่ม Direct Monitor
  • ปุ่ม Volume Control สำหรับลำโพงมอนิเตอร์
  • ช่องเสียบหูฟัง และ  Volume สำหรับ เพิ่ม/ลด เสียงของหูฟัง

ด้านหลังของ AudioBox iOne ครับ

ด้านหลังของ AudioBox iOne ประกอบไปด้วย :

  • ช่องเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือเสียบกับ Power Adapter ของ iPad
  • ช่อง Device สำหรับเชื่อมต่อกับ iPad
  • ช่อง Output สำหรับลำโพงมอนิเตอร์ เป็นช่องเสียบแบบ TRS

สาย USB สำหรับต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือเสียบกับ Power Adapter ของ iPad ครับ

 

คู่มือการใช้งาน และ สามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ presonus.com โดยนำ Bundle Code ที่ให้มา เพื่อทำการดาวน์โหลด Software ได้เลยครับ

 

เรามาดูกันต่อที่ Audio Interface รุ่นที่สองกันเลยครับ ตัวนี่มีชื่อรุ่นว่า “AudioBox iTwo” ครับ

เปิดกล่อง AudioBox iTwo เป็นที่เรียบร้อยครับ ก็จะพบกับ ตัวเครื่อง, สาย USB และ คู่มือการใช้งาน เช่นเดียวกันกับ AudioBox iOne ครับ 

 

ส่วนนี้จะเป็นด้านหน้าของ AudioBox iTwo ครับ สเปคโดยร่วมมีดังนี้ครับ

 

PreSonus : AudioBox iTwo

  • รุ่นนี้เป็น USB Audio Interface ขนาด 2-in/2-out
  • มาพร้อมกับ 2 ปรีไมค์ แบบ XLR และ TRS Combo Inpus ซึ่งใน 1 ช่อง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง ไมค์โครโฟน หรือ เครื่องดนตรีที่ใช้สายเสียบ TRS ก็ได้ครับ
  • ความละเอียดเสียงอยู่ที่ 24-bit/96kHz
  • ปุ่มด้านหน้าเครื่อง จะมีปุ่ม Gain สำหรับทั้ง 2 Channel
  • ปุ่ม Instrument ที่เป็นรูปกีตาร์นะครับ เอาไว้กดใช้ในกรณีที่เราเสียบแจ็คกีตาร์ที่ช่อง Input ครับ
  • ปุ่ม Mix เอาไว้เลือกฟังเสียงในขณะที่เราบันทึกเสียง และ เลือกฟังแบบ Playback เมื่อเราบันทึกเสียงเสร็จ
  • ปุ่ม Phantom Power 48V เป็นปุ่มจ่ายไฟเมื่อเราใช้ไมค์โครโฟน Condenser
  • ปุ่ม Volume Control สำหรับ เพิ่ม/ลด เสียงของลำโพงมอนิเตอร์
  • ช่องเสียบหูฟัง และ Volume เพิ่ม/ลด เสียงของหูฟัง

 

ส่วนนี้จะเป็นด้านหลังตัวเครื่องของ AudioBox iTwo ครับ

 

ด้านหลังของ AudioBox iTwo ประกอบไปด้วย

  • ช่อง Midi in / Midi out สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ Sound โมดูลต่างๆ
  • ช่องเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือเสียบกับ Power Adapter ของ iPad
  • ช่อง Device สำหรับเชื่อมต่อกับ iPad
  • ช่อง Output สำหรับลำโพงมอนิเตอร์ เป็นแบบแจ็ค TRS

 

สาย USB สำหรับต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือเสียบกับ Power Adapter ของ iPad

 

สำหรับรุ่นสุดท้ายนี้จะชื่อว่า AudioBox iTwo Studio ซึ่งรุ่นนี้จะมีอุปกรณ์มาแบบครบเซ็ทเลยครับ

 

เปิดกล่อง AudioBox iTwo Studio ออกมาทั้งหมดครับ โดยรุ่นนี้จะมีอุปกรณ์มาแบบครบเซ็ทเลยครับ ประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง AudioBox iTwo, สาย USB, สายไมค์ XLR, ไมค์คอนเดนเซอร์รุ่น M7 มาพร้อมซองหนัง, หูฟังมอนิเตอร์รุ่น HD7 มาพร้อมถุงผ้า และ คู่มือการใช้งานครับ

 

เราไปดูกันต่อที่อุปกรณ์ทั้งหมดของรุ่น AudioBox iTwo Studio แบบเจาะลึกกันเลยครับ

 

เริ่มด้วยที่ตัวเครื่องของ AudioBox iTwo เลยครับ ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ

 

 

ถัดมาก็จะเป็นไมค์คอนเดนเซอร์ ตัวนี้มีชื่อรุ่นว่า M7 ครับ สำหรับรุ่นนี้จะตอบสนองย่านความถี่ที่ 20Hz-20kHz เป็นย่านความถี่ที่มาตราฐานเลยครับ และคุณภาพก็ครบเครื่องแน่นอนครับ มาพร้อมกับซองหนัง สำหรับเก็บไมค์โครโฟนด้วยครับ

 

แล้วก็จะมี สาย USB เพื่อใช้กับ Audio Interfead และ สายไมค์ XLR เพื่อใช้ต่อเข้ากับไมค์โครโฟนครับ โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้เสียเวลาครับ ขนาดความยาวมาตราฐานอยู่ที่ 3 เมตร ครับ

 

ตัวต่อไปเป็น หูฟังมอนิเตอร์รุ่น HD 7 แบบ Dynamic, Semi-open ครับ ในส่วนของ Driver มีขนาด 50mm แบบ Neodymium ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 10Hz-30kHz มีค่า SPL รองรับความดังได้สูงสุดที่ 98dB น้ำหนักเพียง 222 กรัม เท่านั้นเองครับ โดยรายละเอียดของเสียงที่ได้ยินนั้น ออกมาครบครัน ชัดเจนทุกย่านเสียงมากๆครับ ขนาดความยาวของสายอยู่ที่ 2.5m แบบ Straight  ส่วนหัว Connector แบบ 3.5mm และมีหัวแปลงแบบ TRS 6.3mm แบบ gold-plated stereo plug มาให้ด้วยครับ

 

   สำหรับ PreSonus : AudioBox iOne/iTwo/iTwo Studio ก็จะมีโปรแกรมบันทึกเสียง ที่ชื่อว่า Studio One Artist ที่สามารถใช้ได้ทั้ง Mac และ PC แถมมาให้ด้วยครับ ซึ่งใช้งานง่ายมากๆ และมี Preset FX ปรุงแต่งเสียงมาให้เราเลือกใช้เยอะมากๆครับ ไม่ว่าจะเป็น FX Processor หรือ FX จำลองหัวแอมป์ สำหรับกีตาร์ไฟฟ้าด้วยครับ โดยเราสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่เว็บไซต์ PreSonus.com เพื่อทำการลงทะเบียน แล้วนำ Bundle code ที่คู่มือการใช้งาน ไปใส่เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมได้เลยครับ

ภาพนี้ก็จะเป็นหน้าตาของโปรแกรม Studio One Artist ครับ

   ที่พิเศษไปกว่านั้น สำหรับรุ่นนี้จะมีแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Capture Duo” สำหรับใช้งานร่วมกัน iPad และยังสามารถส่งไฟล์ผ่านเข้าสู่โปรแกรม Studio One Artist ได้อีกด้วยครับ โดยการโอนส่งไฟล์ เพียงแค่ตั้งค่า Wifi ของ iPad ให้ใช้ชื่อ Wifi เดียวกับคอมพิวเตอร์ ก็สามารถโอนส่งไฟล์เข้าสู่โปรแกรม Studio One Artist บนคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ

 

รูปนี้เป็นหน้าตาของ เจ้าแอพพลิเคชั่น Capture Duo ครับ

 

   สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจ PreSonus : AudioBox iOne/iTwo/iTwo Studio ทั้ง 3 รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการบันทึกเสียง ทำเพลง ทำดนตรีต่างๆ บนคอมพิวเตอร์ และยังใช้งานร่วมกับ iPad ได้อีกด้วย มาพร้อมกับโปรแกรม และ แอพพลิเคชั่น ให้ใช้งานได้ทันที โดยรวมแล้วทั้งหมดนี้ถือว่าสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในห้อง Studio หรือการทำงานนอกสถานที่ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งานและราคาจริงๆครับ

สำหรับลูกค้าที่ต้องการดูรีวิวการใช้งานจริง สามารถเข้าไปชมได้ที่ VDO Youtube ตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ

 

โดยราคา ณ ปัจบันของทั้ง 3 รุ่น จะอยู่ที่

1. AudioBox iOne  - 5,500 บาท

2.AudioBox iTwo - 6,900 บาท

3.AudioBox iTwo Studio - 10,590 บาท

ลูกค้าสามารถเข้ามาทดลองสินค้ากันได้ที่ ร้าน “Millionhead Pro-Audio” สาขา รามคำแหง 24 แยก 30 ได้เลยนะครับ  สำหรับวันนี้ผมก็ขอจบทำการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ  ต่อไปจะเป็นสินค้าประเภทไหน แบรนด์อะไร รุ่นอะไร โปรดติดตามรีวิวต่อไปกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ

 

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

Tel : 081-802-5196, 02-719-2097      

เพิ่มเพื่อน

Line@ : @millionheadpro         

Facebook : millionheadpro        

Instagram : millionheadpro

 Admin : Jamez

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Line@ : @millionheadpro
Facebook : millionheadpro
Instagram : millionheadpro