6 ชนิดของสายสัญญาณที่คนทำเพลงควรรู้

โดย Millionhead ในวันที่ 31 ต.ค. 2563, 11:00 น.

-Unbalanced เป็นสายสัญญาณที่ใช้ทั้งหมดสองขั้วเท่านั้นคือ ขั้วบวกและขั้วดิน ความแรงของสัญญาณ Unbalanced จะอยู่ที่ -10dBv สายสัญญาณประเภท Unbalanced ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเดินสายยาวๆที่เกิน 3-4 เมตร เพราะถ้ายิ่งสายยาวค่าความต้านทาน(Impedanced) ก็จะสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัญญาณ

-Balanced ใช้สายสัญญาณทั้งหมดถึงสามขั้วด้วยกัน ได้แก่ ขั้วบวก ขั้วลบ และขั้วดิน ความแรงของสัญญาณจะอยู่ที่ +4dBv เป็นผลทำให้ ได้กระแสสัญญาณในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราใช้สายสัญญาณในระยะทางที่เพิ่มขึ้นได้ โดยลดการสูญเสียสัญญาณที่มาจากความต้านทาน (Impedanced) ที่อยู่ในสายสัญญาณลงไปได้มาก  คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น เสียงnoiseตํ่าลง มีมิติชัดเจน ย่านความถี่สมบูรณ์มากขึ้น

มีอะไรบ้างไปดูกันเลย!!!!!!!

TRS ย่อมาจาก “Tip Ring Sleeve” แบ่งออกเป็น 3 ขั้ว ได้แก่ TIP +, RING –  และมีขั้วดิน (Sleeve)  TRS ก็จะจัดอยู่ใน Balanced Cables นั้นเอง  สามารถรับส่งสัญญาณเป็น Stereo ส่วนขนาดของ TRS ก็จะมี 2 ขนาด เหมือนกับ TS ส่วนมาก ขนาด 1/4 มักจะใช้กับหูฟัง

TS ย่อมาจาก “Tip Sleeve” จัดอยู่ในรูปแบบ Unbalanced Cables มี 2 ขั้ว TIP +  และมีขั้วดิน (Sleeve) 1 ขั้วในการรับส่งสัญญาณ ซึ่งสัญญาณที่รับส่งนั้น เป็นสัญญาณ Mono  TS แบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ 1/4 กับ 1/8 นิยมใช้ในงานแทบทุกประเภท ทั้งเดินสายภายในระบบเสียง และสายประเภท instrument cable เช่นกีต้าร์ , เบส , คีย์บอร์ด เป็นต้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

XLR ประกอบด้วย 3 ขั้ว มี Hot , Cold , Ground จัดอยู่ใน Balanced Cables จึงทำให้ XLR ได้กลายเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมไปแล้ว เพราะสามารถ รับส่งสัญญาณได้หลายรูปแบบ มักใช้กับไมค์ Mixer หรือ ลำโพง และที่สำคัญยังสามารถควบคุมแสงไฟได้อีก และถือได้ว่าเป็นสายที่รับส่งสัญญาณได้สมดุลที่สุด

RCA เรียกเต็มๆว่า Radio Corporation of America เป็นสัญญาณในรูปแบบ Unbalanced มีขั้วนำสัญญาณทั้งหมด 2 ขั้ว นำสัญญาณขั้วบวก (Tip) 1 ขั้ว และมีขั้วดิน (Sleeve) 1 ขั้ว นิยมพบเห็นได้ทั่วไปโดยส่วนมากจะพบเห็นในรูปแบบสีขาว และสีแดง ซึ่งส่งสัญญาณข้างซ้าย และ ข้างขวา ในแบบสเตอริโอ (Stereo) พบเห็นได้กับการใช้งานกับเครื่องเล่น ซีดี ดีวีดี เครื่องเสียงบ้านทั่วไป เป็นต้น

ADAT เรียกเต็มๆว่า Alesis Digital Audio Tape นอกจากจะเป็นชื่อเครื่องเล่น-บันทึกเทป 8 แทรคในระบบดิจิตอลแล้ว มันยังย่อมาจากโปรโตคอลสำหรับรับส่งดิจิตอลออดิโอ “ADAT Optical” มีความสามารถในการส่งสัญญาณเสียง 8 ช่องสัญญาณด้วยสายไฟเบอร์ออพติกเส้นเดียว ปัจจุบันนี้มาตรฐานเดียวกันนี้ยังถูกนำไปใช้กับ Analog-to-Digital Converters หรือบนออดิโออินเตอร์เฟซก็มีให้ใช้กัน

MIDI Cable เรียกเต็มๆว่า “Music Instrument Digital Interface Cable”  ใช้กับการเชื่อมต่อกับ MIDI Controller, เครื่องดนตรีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งจะไม่ได้ส่งสัญญาณเป็น Audio แต่จะส่งสัญญาณตามค่าที่เราได้กำหนดไว้ตามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยังสามารถควบคุมซอฟต์แวร์ต่างๆได้