5 ศิลปินในตำนานที่มอบวิญญาณให้ปีศาจ

โดย Millionhead ในวันที่ 05 มิ.ย. 2564, 11:16 น.

5 ศิลปินในตำนานที่มอบวิญญาณให้ปีศาจ

ถ้าให้พูดถึงตำนาน เรื่องเล่า ข่าวลือที่มีความโด่งดังและถูกพูดถึงอยู่อย่างบ่อยครั้งของศิลปินจากแดนตะวันตก เรื่อง ”การขายวิญญาณให้กับปีศาจ” จะต้องเป็นหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างแน่นอน ในโลกของวงการดนตรี

นักดนตรีหลายๆท่านล้วนแต่มีความฝันไม่ว่าเป็น การมีชื่อเสียง การออกอัลบั้ม การเล่นเครื่องดนตรีได้แบบชำนาญเชี่ยวชาญเหมือนพระเจ้าประทานพรให้ บางครั้งบางทีมันก็ไม่ได้เป็นตามที่ตั้งใจไว้ เหนื่อยกับการพยายาม “การขายวิญญาณให้กับปีศาจ” จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับศิลปินบางคน

แอดพูดมาขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆน่าจะอยากรู้กันเเล้วว่ามีใครกันบ้างที่เลือกหนทางแห่งความมืดนี้! เดี๋ยวแอดพาไปดูกันเลยดีกว่า!! กับ 7 ศิลปินในตำนานที่มอบวิญญาณให้ปีศาจ!!

ศิลปินจากวงสี่เต่าทอง The Beatles จากแดนผู้ดีประเทศอังกฤษ สมาชิกผู้เป็นกระบอกเสียงของวงคนนี้ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ความสำเร็จที่ The Beatles ได้มานั้นเป็นเพราะตัวเขาเองขายวิญญาณให้กับปีศาจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างที่จอห์นพูดหรือไม่ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ เขายังเคยชวนสมาชิกในวงให้มาลองศึกษาชีวิตของ อเลสเตอร์ ครอว์ลีย์ และเผยแพร่แนวคิดต่างๆจากจอมเวทย์มนต์ดำจากวง Led Zeppelin หลักฐานมีอยู่ให้เห็นในปกอัลบั้ม Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band ในปี 1967 ที่มีใบหน้าของ อเลสเตอร์ ครอว์ลีย์ ปรากฏอยู่ที่มุมบนด้านซ้ายของภาพ โดยจอห์นอธิบายไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่า สัญญาฉบับนี้มีอายุ 20 ปี และสิ้นสุดลงในตอนที่เขาถูกแฟนคลับที่มีปัญหาทางจิตเหนี่ยวไกปืนใส่

มือกีต้าร์ของวงร็อคในตำนานอย่าง Led Zeppelin เขาเป็นผู้ที่เชื่อในลัทธิลึกลับอย่าง Thelema แบบลึกล้ำ เห็นได้จากการที่เขาซื้อ Boleskine House บ้านในสก็อตแลนด์ของครอว์ลีย์ นอกจากนั้นยังเคยพยายามเข้าร่วมกลุ่มที่ทำกิจกรรมเพื่อติดต่อสื่อสารกับวิญญาณ รวมถึงมีข่าวว่าเขาประมูลซื้อวัตถุเครื่องมือที่ใช้ทำพิธีกรรมปีศาจ ทำให้เกิดเป็นข่าวลือว่าวง Led Zeppelin นั้นคือวงดนตรีของปีศาจ และเขาว่ากันว่าหลังการเสียชีวิตของ จอห์น บอนแฮม มือกลองของวง และ Karac ลูกชายของโรเบิร์ต แพลนต์นักร้องนำ เสียชีวิตเพราะผลกรรมจากการที่พวกเขาได้ทำสัญญากับปีศาจเอาไว้ อีกทั้งบทเพลงดังของวงอย่าง ‘Stairway To Heaven’ มีคำล่ำลือว่าหากเล่นเพลงนี้แบบย้อนหลังมันจะกลายเป็นบทสวดเรียกซาตาน!!! 

สุดยอดมือกีตาร์ระดับตำนานแห่งวงการเพลงบลูส์ ชายผู้ขายวิญญาณให้กับปีศาจ ณ กลางสี่แยก จนมีฝีมือการเล่นกีต้าร์ที่เทพขึ้นแบบผิดหูผิดตา สามารถประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และต้องลาโลกนี้ไปอย่างรวดเร็วเช่นกันด้วยวัย 27 ปี (ซึ่งเขาเป็นหนึ่งใน 27 club อีกด้วย) โดยเรื่องการขายวิญญาณของเขามีอยู่ว่า วันหนึ่งจอห์นสันได้เดินไปที่สี่แยกแห่งหนึ่งและได้พบกับปีศาจตนหนึ่ง ซึ่งปีศาจตนนั้นได้ปรับจูนกีต้าร์และโชว์ลวดลายลีลาการเล่นพร้อมแนะนำและสอนวิธีการจะเป็นสุดยอดมือกีต้าร์เพลงบลูส์นั้นต้องทำอย่างไร โดยสิ่งที่จอห์นสันต้องแลกก็คือชีวิตของเขาที่ต้องจากโลกไปอย่างรวดเร็วด้วยการโดนวางยาจากชายชู้ของภรรยาเขานั่นเอง ภายหลัง เรื่องราวของจอห์นสันถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง ‘Crossroads’ ในปี 1986 อีกด้วย

นักร้องนำของวง Black Sabbath ผู้ได้รับฉายา “ออสซีเจ้าชายแห่งความมืด”

เขาถูกกล่าวอ้างว่าเกี่ยวพันกับลัทธิลึกลับ ในปี 1984 ออสซีเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องสัญญาปีศาจกับนิตยสาร Hit Parader ว่า “ผมหวังว่าผมจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงทำสิ่งเหล่านั้นที่ผมเคยทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางครั้งผมคิดว่าผมกำลังถูกครอบงำจากวิญญาณภายนอก เมื่อสองสามปีก่อน ผมมั่นใจว่า ผมคิดว่าผมกำลังถูกปีศาจเข้าสิงอยู่จริง ๆ ผมจำได้ว่าผมนั่งดู The Exorcist เป็นสิบ ๆ รอบและพูดกับตัวเองว่า ‘ใช่ ฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับมันได้’” นอกจากนั้นภายหลังเขายังเคยออกมายอมรับว่าเขาทำสัญญากับปีศาจด้วยตัวเขาเอง

ถ้าพูดถึงศิลปินชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในยุค 60-70 บ็อบจะต้องเป็นหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงอย่างแน่นอน ด้วยบทเพลงแนวเพื่อชีวิตที่แฝงไปด้วยคำคมปรัชญาสอนใจต่างๆ ทำให้ชายผู้นี้เป็นขวัญใจสำหรับใครหลายๆคนที่กำลังหาที่พักใจในทันที เรื่องราวการขายวิญญาณของเขาเกิดขึ้นในตอนที่เขาให้สัมภาษณ์กับทาง CBSnews ในปี 2004 ว่าความสำเร็จที่เขาได้มีความเกี่ยวพันกับสัญญาในอดีต โดยบทสัมภาษณ์มีอยู่ว่า..

ผู้สัมภาษณ์ : ทำไมคุณถึงยังอยู่ตรงนี้ ?
บ็อบ ดีแลน : ต้องย้อนไปถึงสิ่งที่เป็นชะตากรรมของผม ผมได้ต่อรองกับมัน…เมื่อนานมาแล้ว และ ผมกำลังยืดจุดจบของผมออกไป
ผู้สัมภาษณ์ : คุณต่อรองอะไรกับสิ่งนั้น ?
บ็อบ ดีแลน : เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ผมมีอยู่ในตอนนี้
ผู้สัมภาษณ์ : ผมควรถามไหมว่าคุณต่อรองกับใคร ?
บ็อบ ดีแลน : กับผู้บัญชาการสูงสุด
ผู้สัมภาษณ์ : บนโลกใบนี้น่ะหรอ ?
บ็อบ ดีแลน : ทั้งบนโลกใบนี้และโลกที่เรามองไม่เห็น…

บทสัมภาษณ์นี้ถูกนำไปตีความอย่างแพร่หลายต่างคนต่างคิดไปต่างๆนาๆ สิ่งที่บ็อบกล่าวไว้เป็นเรื่องจริงเเค่ไหนเพื่อนๆต้องลองคิดดูกันแล้วล่ะครับ