รีวิวสินค้า

อุปกรณ์สำหรับอัดเพลง Set นี้โดนใจ ชุดเดียวเอาอยู่!

โดย Millionhead ในวันที่ 26 ส.ค. 2559, 11:03 น.

fb

    เมื่อพูดถึงการทำเพลง, การสร้างผลงานเป็นของตัวเอง, การอัดรวมแบบแยกไลน์,หรือการ Cover เพลงโปรดให้ได้ซาวน์ดีๆ มีคุณภาพซักเพลงเพื่อลงใน Social นั้น เพื่อนๆหลายๆคนคงคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวหรืออาจจะคิดว่าต้องเป็นห้อง Studio ดีๆเท่านั้นถึงจะทำได้ใช่ไหมล่ะครับ เพราะส่วนตัวผมเองก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ย้ำนะครับว่า “แค่เคย” นะครับ เพราะว่าตั้งแต่ที่ผมได้ทดลองเจ้า Tascam : Trackpack 4x4 ด้วยตัวเองครับ ต้องบอกเลยว่าจากนั้นความคิดของผมก็เปลี่ยนไปครับ^^ อยากรู้จักเจ้าสิ่งนี้กันแล้วใช่ไหมครับ? งั้นเรามาดูกันเลยครับ..

Tascam : Trackpack 4x4

 

เมื่อเห็นหน้าตาก็คงพอรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่า Tascam : Trackpack 4x4 นั้นไม่ใช่ชื่อของตัวสินค้าตัวใดตัวหนึ่งครับแต่มันมาเป็นแพคเกจนั่นเองครับซึ่งในแพคเกจก็จะประกอบด้วย อะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยครับ

 

เริ่มต้นกันที่ Tascam : US-4x4

4-in/4-out Audio/MIDI Interface with HDDA Mic Preamps and iOS Compatibility

 

1. TASCAM : US-4x4 USB Audio/MIDI Interface หรือชื่อที่เพื่อนๆเรียกคือ Audio Interface หรือชื่อที่พ่อแม่เรียกก็ซาวการ์ด นั่นล่ะครับ 555+

  จากภาพนะครับเริ่มจากซ้ายมือเราก็จะเห็นคำว่า Tascam US-4x4 เปรียบเหมือนป้ายระบุตัวตนกันก่อนเลยครับ Tascamนั่นคือชื่อของแบรนด์ครับส่วนUS-4x4 นั่นก็ไม่ใช่สมการนะครับ มันคือชื่อรุ่นครับ ส่วนเจ้าสวิตช์ที่อยู่ด้านล่างนั่นจะเรียกกันว่าปุ่มPhantom Power48V นะครับ ปุ่มนี้มีหน้าที่คือเป็นตัวจ่ายไฟเพื่อไปเลี้ยงไมค์คอนเดนเซอร์ครับ สำหรับรุ่นนี้มีมาให้ปุ่มเดียวแต่เพียงพอสำหรับจ่ายไฟได้ทั้ง 4 input ครับ ต่อไปจะเป็น IN1 - IN4 นะครับ ในแต่ละช่อง Input นั้นจะประกอบด้วย ช่อง XLR 1ช่อง,TRS 1 ช่อง เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อ 1 Input ครับ จากนั้นก็จะเป็นส่วนของ Gain นะครับมีเอาไว้สำหรับเพิ่มหรือลด Gain ครับหรือถ้าจะอธิบายให้ง่ายๆหน่อยก็คือเพิ่มลดสัญญาณที่เราจะเอาเข้าไปนั่นล่ะครับ  " แล้วจะรู้ได้ไงว่า Gain เท่าไหร่จึงจะดีล่ะ ?" ไม่ยากครับให้เราสังเกตข้างบนของวอลลุ่มนะครับจะมีคำว่า Sig มาพร้อมๆกับแสงสีเขียว ส่วนทางขวาใกล้ๆกันนั้นจะเป็นคำว่า Peak มาพร้อมแสงสีแดง เมื่อไหร่ที่สีแดงสว่างวาบนั่นคือการแจ้งเตือนให้เราลด Gain ครับ  ทั้ง 4Inputจะมีเหมือนกันนะครับ

 

   มาถึงโซนที่เปรียบเสมือนห้องควบคุมของตัวเครื่องละนะครับ(แผงควบคุมฝั่งขวาของตัวเครื่อง)

อัดร้อง>ต้องมีไมค์>ต้อง XLR + เลือก Mic/Line Inst >มาจาก >Instrument >แปลว่าเครื่องดนตรี >คู่กับสายTRS

 

เริ่มกันที่ MIC/Line กับ INST  IN1, IN2 นะครับสวิตช์ตัวนี้มีไว้เพื่ออะไรกันนะ? พอจะจำได้ไหมครับว่าในแต่ละ Input นั้นจะมีทั้ง XLR  และ TRS Input ซึ่งนั่นก็หมายถึงใน 1 Input นั้นเราจะเลือกใช้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งครับ ส่วนจะเลือกยังไงนั้นให้เราจำไว้ได้เลยครับถ้าเป็นไมค์ต้องคู่กับสาย XLR ครับเพราะฉนั้นเราก็ต้องเสียบช่องที่เป็น XLR ในส่วนของ IN1 จริงไหมครับ หลังจากนั้นให้เราไปเลือกสวิตช์ในโซนห้องควบคุมฝั่งขวาให้เป็น Mic/Line ครับ แต่ถ้าเราใช้อัดเครื่องดนตรีเช่นเบส กีตาร์นะครับก็ต้องใช้สายสัญญาณ ที่เป็นหัว TRS เพราะฉนั้นเราก็ต้องเลือกเสียบช่องที่เป็น TRS ครับตามด้วยการเลือกสวิตช์ไปทาง Instครับ อ้ออ! Inst ย่อมาจากคำว่า Instrument ครับ จำง่ายๆครับ ถ้าอัดไมค์เลื่อนซ้าย อัดเครื่องดนตรีเลือกขวาครับ ซึ่งรุ่นนี้มีแค่ IN1 และ IN2 เท่านั้นที่สามารถเลือกได้นะครับ ต่อจากนั้นก็เป็น Line Out 1-2 อันนี้เป็นวอลลุ่มควมคุมเสียงของ Output1 และ  2ครับ  ต่อไปก็เป็นวอลลุ่มควบควม Monitor Balance แปลตรงๆตามตัวเลยครับ มีไว้ควบคุมความดังเบาของเสียงจาก Input และจาก computer ของเราครับ สุดท้ายครับขวาสุด Phone มีเอาไว้เสียบหูฟังครับผม^^ ยังไม่หมดนะครับ ยังมีด้านหลังอีกครับ(งานละเอียดครับ)มาถึงตรงนี้ถ้าลองได้นึกดูดีๆนะครับว่ามันยังขาดอะไรไปพยายามอ่านมาจนถึงตรงนี้ ...จำชื่อเต็มของเจ้า US-4x4 ได้กันอยู่รึเปล่าครับ ? ......." USB Audio/MIDInterface "ใช่แล้วครับ!! รุ่นนี้มีช่องสำหรับ Input และ Output MIDI อีกทั้งยังสามารถใช้งานกับระบบ iOS ได้อีกครับโดยจำเป็นต้องมี Apple Camera Kit USB to Lightning ถึงจะสามารถใช้ได้ครับ  US-4x4 ตัวนี้จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยงครับซึ่งไม่ต้องกังวลไปครับเพราะว่า Tascam เค้าจัดอแดปเตอร์มาให้แล้วครับ ^^ สำหรับจุดเด่นของ US-4x4 ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คงจะเป็นนี่เลยครับ Ultra HDDA Mic Preamps ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เสียงสะอาดปราศจากเสียงรบกวนได้ดีมากครับย้ำว่าแทบจะไม่ได้ยิน noise เลยล่ะครับ นอกจากนั้นยังทำให้ได้เสียงที่เป็นธรรมชาติไม่มีการปรุงแต่งหรือหลอกหูเราเลยครับ ซึ่งในบรรดา Audio Interface ของยี่ห้ออื่นในรุ่นไล่ๆกันเค้าไม่มีครับ เพราะฉนั้นถ้าคุณต้องการความสะอาดของเสียงก็ต้องเจ้าตัวนี้เลยครับ

 

2. Tascam : TM-80  ไมค์คอนเดนเซอร์

TM 80 เป็นไมคอนเดนเซอร์ราคาย่อมเยาว์ ที่เหมาะกับการบันทึกเสียงระดับประมาณ Home Studio  ไมค์รุ่นนี้มี  ไดอาแฟรมที่ทำมาจากอะลูมิเนียม ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz-20 kHz ครับ   ส่วนภาคการรับสัญญาณนั้นเป็นแบบ Cardioid (คาดิออย รับเสียงเฉพาะด้านหน้าครับ) ใช้งานได้ทั้งอัดร้อง อัดอะคูสติก อีกทั้งวงจรภายในถูกปรับปรุงมา เพื่อลดเสียงรบกวนและการบิดเบือนของเสียงครับ  

XLR, tabletop, TM-80,stand ,shockmount

 

TM-80 จะมาพร้อมกับ ขาไมค์ตั้งโต๊ะ,  shockmount ,สาญสัญญาณ XLR  ซึ่งในแพคเกจนี้ จะมีไมค์ TM 80 มาให้ถึง 2 ตัวครับ เพราะฉนั้นก็เท่ากับว่าเราก็จะมีไมค์รุ่นนี้ 2 ตัว ขาไมค์ตั้งโต๊ะ 2 ตัว shockmount 2 ชิ้นครับ สาย XLR อีก 2 เส้น เรียกได้ว่าไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่มให้วุ่นวายเลยครับ

 

3. Tascam : TH-20 closed-back headphone หรือเรียกง่ายๆว่าหูฟังมอนิเตอร์ก็ได้ครับ หูฟังรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ได้เสียงที่ธรรมชาติที่สุด แฟลตที่สุดไม่มีการปรุงแต่งเสียงเพื่อหลอกคนฟังครับ มันต่างกับหูฟังทั่วๆไปตรงที่หูฟังทั่วไปนั้นจะมีการปรับแต่งเสียงเอาไว้เพื่อให้เราฟังแล้วเสียงมีคาแรคเตอร์ในแบบที่ผู้ผลิตต้องการครับ ในแพคเกจก็เช่นเดียวกันกับไมค์ครับ ผมกำลังหมายถึงในแพคเกจนี้มีมาให้ 2 ตัวครับ

 

หูฟัง Monitor TH-02

 

แนะนำกันขนาดนี้ถ้าผมยังไม่ลองเองคงเสียชาติเกิดแน่ๆครับ ^-^   ว่าแล้วก็ไม่รีรอครับ ผมลองเซตนี้โดยการเสียบไมค์ TM-80 Input1 กับ Input2 เพื่ออัดร้องกับร้องเสียงประสาน แล้วกีตาร์ก็เสียบเข้า Input3 กับ 4 ครับ เพื่อบันทึกพร้อมกัน บวกกับกลองไฟฟ้า HXM HD007 เสียบเป็น MIDI USB เข้าคอมพิวเตอร์ครับ ก็จะเท่ากับเราบันทึกพร้อมกันตั้งแต่ร้อง1 ร้อง2 กีตาร์1 กีตาร์2 และ กลองครับ จ่ากนั้นค่อยมาเลือกปรับแต่งนิดหน่อยด้วยโปรแกรมหลังจากบันทึกครับ  สิ่งที่ได้ออกมาก็จะเป็นแบบในคลิปนี้เลยนะครับลองเข้าไปดูกันได้ครับ

 

" พอได้แจมกันแบบนี้ผมเลยคิดว่ามันไม่ใช่แค่เอาไว้บันทึกเท่านั้น แต่มันยังเอาไว้ทำเพลงคิดเพลงไปพร้อมๆกัน แล้วอัดเอาไว้ฟัง แถมยัง Edit ทีหลังได้ด้วยครับ "

 

บทสรุป

เขียนมาจนถึงตรงนี้ผมก็ได้เพียงหวังว่ามันจะตอบโจทย์ของใครหลายๆคนได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนผู้อ่านเองก็ได้อ่านมาถึงตรงนี้คงจะอยากรู้ราคาแล้วใช่ไหมครับ ขอตอบเลยละกันครับ 13,900 บาทครับ ถูกไหมล่ะครับ ^^ สำหรับผม คิดว่าแพคเกจนี้เมื่อเทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามากๆเลยล่ะครับ ถ้าหากมีใครที่เห็นด้วยกับผมก็อย่ามัวรีรอครับ มาสัมผัสด้วยตัวเองได้เลยครับร้านของเราตั้งอยู๋ที่ซอย รามคำแหง24 แยก30 ครับ เลี้ยวเข้ามาประมาณ 40-50 เมตรก็จะเจอร้านอยู่ทางขวามือสังเกตชื่อ MillionHead Pro-Audio ครับ

 

หรือสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 081-802-5196, 02-719-2097      

Facebook : millionheadpro      

Instagram : millionheadpro   

Line@ : @millionheadpro

เพิ่มเพื่อน                       

ส่วนวันนี้ผม Admin iaP กับ Tascam : 4x4 “สวัสดีครับ Bye... "

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Line@ : @millionheadpro
Facebook : millionheadpro
Instagram : millionheadpro