10 เหตุผล ที่คุณต้องลองใช้ Cubase Pro

10 เหตุผลที่คุณต้องลองใช้ Cubase Pro

 

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นฝึกฝนทำเพลง บันทึกเสียง หรือหัดมิกซ์เสียงก็ตาม การตัดสินใจเลือกใช้ซอฟต์แวร์สักตัวอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทว่าหากคุณเคยมีประสบการณ์ใช้งานซอฟต์แวร์ตัวอื่นมาบ้าง การจะย้ายไปค่ายอื่นคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้องทำความคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ตัวใหม่ไม่มากก็น้อย แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่หัดคลิก อยากให้ลองพิจารณาเหตุผลเหล่านี้ มันอาจทำให้คุณต้องร้อง Wow!! ก็เป็นได้

 

1. สร้างแทร็ก MIDI ได้ไม่จำกัด - คุณสามารถสร้างแทร็ก MIDI ขึ้นมาเพื่อใส่เสียงของเครื่องดนตรีชิ้นต่างๆ โดยไม่จำกัดจำนวนแทร็ก มันมีประโยชน์มากในกรณีที่คุณสร้างเทมเพลทหรือแม่แบบโปรเจคขนาดยักษ์เอาไว้ ซึ่งเราอาจกำหนดให้แต่ละแทร็กโหลดพรีเซตเสียงของเครื่องดนตรีชิ้นต่างๆ ที่ใช้บ่อยๆ ไว้ตอนเปิดไฟล์ในคราวเดียว ฉะนั้นเมื่อต้องการใช้งาน แค่คลิกบนแทร็กที่ต้องการก็จะได้ยินเสียงพรีเซตนั้นทันที ทำให้ประหยัดเวลาในการสร้างแทร็กเพื่อโหลดฟังทีละพรีเซต เช่นคุณมีปลั๊กอิน Vienna Instruments, 8dio, Spitfire, Omnisphere ฯลฯ ซึ่งหากนับพรีเซตรวมกันมีไม่ต่ำกว่าหลักพันพรีเซต มันทำให้เสียเวลาเลือกพรีเซตเสียงที่ต้องการนานแน่นอน 

 

2. ฝังเครื่องมือต่างๆ ไว้ที่จุดเดียว - เมื่อก่อนเครื่องมือต่างๆ มันจะแยกไปตามฟังก์ชันของหน้าต่างนั้นๆ แต่บน Cubase Pro มันถูกดึงออกมาวางไว้หน้า Track View หรือหน้าแรกของโปรเจค โดยเฉพาะหน้าต่างมิกเซอร์ผนวกไว้ด้านล่างและเบราเซอร์ที่ใช้เข้าถึงไฟล์ loop, sample, preset แทร็ก ปุ่มทูลบาร์สารพัดมากองอยู่หน้าเดียวเกือบทั้งหมด ทำให้ใช้งานคล่องตัวมากขึ้น

 

3.ค้นหาแทร็ก - บางทีต้องการหาแทร็กที่ต้องการ ไล่หาด้วยสายตาไม่เจอ การพิมพ์ป้อนชื่อแทร็กลงไปในช่องค้นหาแทร็ก จะทำให้เข้าถึงแทร็กได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโปรเจคที่มีแทร็กเยอะๆ

 

4.โฟลเดอร์แทร็ก - เมื่อสร้างแทร็กขึ้นมาจำนวนมากๆ คุณสามารถจัดกลุ่มแทร็กเหล่านั้นให้ไปอยู่ในโฟลเดอร์แทร็กได้ เช่นโฟลเดอร์ Strings ใช้เก็บแทร็กดนตรีประเภทเครื่องสายทั้งหมด หรือ Percussion เก็บเครื่องเคาะจังหวะทั้งหมด และ ฯลฯ ตรงนี้ทำให้คุณสามารถบริหารจัดการแทร็กได้ง่ายขึ้น

 

5.สั่งโชว์/ซ่อนข้อมูลเฉพาะแทร็กได้ - เวลาที่เราไม่ต้องการให้แทร็กใดโชว์ก็สั่งให้มันซ่อนได้ รวมไปถึงพวกแทร็ก Automation, Control Change ต่างๆ อีกด้วย หรือในหน้า Track View คุณให้โชว์ทุกแทร็ก แต่เมื่อเปิดไปหน้า Mix Console คุณสามารถโฟกัสเฉพาะแทร็กที่สำคัญในขณะนั้นๆ ได้อย่างอิสระ

 

6. Expression Maps - เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่เยี่ยมมาก คนทำเพลงมือระดับโลก อย่าง Hans Zimmer ก็ชื่นชอบฟังก์ชันนี้มาก คุณสามารถกำหนด Articulation ของตัวโน้ตดนตรีได้อย่างอิสระ เช่น Marcato, Staccato, Legato

 

7.สามารถจัดเรียงรายชื่อปลั๊กอินตามผู้พัฒนา - ทำให้สะดวกในการเรียกปลั๊กอินในเครื่องมาทำงานได้รวดเร็วขึ้น

 

8. จัด Group แทร็ก - ผู้ใช้สามารถรวบแทร็กต่างๆ ที่ต้องการ แล้วควบคุมแทร็กที่อยู่ใน Group นั้นผ่านสไลด์เฟดเดอร์เพียงก้านเดียว

 

9. รองรับการควบคุมผ่าน iPad - โดยใช้งานในลักษณะเป็นรีโมท (Cubase iC Pro) ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ

 

10. ประมวลผล 64-bit precision - การประมวลผลข้อมูลต่างๆ ภายในมีความแม่นยำเที่ยงตรงมากขึ้น ทำให้ข้อมูลก่อนและหลัง Render in Place หรือ Bounce แทร็กออกมาภายนอกมีคุณภาพเสียงใกล้เคียงกัน ไม่ผิดเพี้ยน

 

อันที่จริงบน Cubase Pro ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เราหวังว่า 10 เหตุผลเบื้องต้นที่กล่าวมานี้ น่าจะทำให้คุณตัดสินใจลองมาเล่น Cubase Pro กันดูนะ