True Wireless In Ear Headphone, Bluetooth 5.1, 2402MhHz – 2480MHz, iOS, Android, Windows, macOS with Low Latency and Active Noise Cancelling Mode for Gaming, IPX5
หูฟัง Eaudio NOVA 10 เป็นหูฟังแบบ True Wireless ใช้งานแบบไร้สายให้ความสะดวกในการสวมใส่ฟังเพลงหรือสนทนาสายโทรศัพท์ มาพร้อมกล่องสำหรับเก็บพร้อมชาร์จหูฟังที่ทำให้หูฟังสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องประมาณ 9 ชั่วโมง
การออกแบบเคสและตัวหูฟัง
ตัวหูฟังเป็นรูปแบบ In-Ear สีขาวมีลักษณะคล้ายกับหูฟัง AirPods Pro แต่ก้านหูฟังยาวกว่าเล็กน้อย น้ำหนักค่อนข้างเบา ตรงก้านหูฟังจะมีแผงควบคุมที่อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านล่างหูฟังจะเป็นขั้วชาร์จ เวลาที่เราต้องการชาร์จหูฟัง ก็ให้นำส่วนด้านล่างใส่ลงไปในกล่อง ก่อนใส่ลงไปแนะนำว่าให้เช็คข้างซ้ายและข้างขวาของหูฟังด้วย เพื่อการชาร์จที่ถูกต้อง ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนจุกหูฟังได้ โดยจุกยางมีให้เลือก 3 ขนาดด้วยกัน เมื่อเลือกจุกยางขนาดที่เหมาะกับตนเองแล้ว การสวมใส่จะรู้สึกสบาย จุกยางให้สัมผัสนุ่ม สวมใส่ได้กระชับ ไม่หลุดง่าย ส่วนกล่องชาร์จหูฟังเป็นสีขาว ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม น้ำหนักเบา มีฝาเปิดด้านบน คล้ายกับเคสชาร์จ AirPods Pro แต่กล่องชาร์จหูฟัง Eaudio NOVA 10 จะใหญ่กว่านิดหน่อย ส่วนของด้านและด้านล่างจะไม่โค้งมนเหมือนกับเคสของ AirPods Pro ด้านหน้าของกล่องชาร์จจะมีจุดไฟบอกสถานะ และด้านหลังมีปุ่มกดสำหรับรีเซ็ตหูฟัง ส่วนด้านล่างจะเป็นส่วนของการชาร์จ ซึ่งเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จกล่องหูฟังนั่นเอง
การเชื่อมต่อ
สำหรับการเชื่อมต่อ หูฟัง Eaudio NOVA 10 จะเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปิดฝากล่องชาร์จ รอให้ไฟเขียวสว่างขึ้น 3 วินาที จากนั้นก็เอาหูฟังออกจากกล่อง แล้วเข้าไปยังส่วนการตั้งค่าบลูทูธบนสมาร์ตโฟน เลือกเชื่อมต่อชื่อ Eaudio NOVA 10 ได้เลย เมื่อทำการเชื่อมต่อครั้งแรกแล้ว ครั้งถัดไปที่เราใช้งานก็สามารถหยิบหูฟังออกจากเคสแล้วนำมาฟัง โดยไม่ต้องเข้าไปเชื่อมต่อที่ส่วนการตั้งค่าบลูทูธใหม่
การควบคุมและการใช้งานเบื้องต้น
สำหรับการควบคุมหูฟังไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเพลง มีเดีย การสนทนาสายโทรศัพท์ หรือการเรียกฟังก์ชันอื่น ๆ เราจะทำโดยการแตะสัมผัสส่วนของแผงควบคุมที่อยู่ตรงก้านของหูฟัง ซึ่งค่อนข้างให้ความสะดวกในการใช้งานแบบไร้สาย แต่ละคำสั่งมีดังนี้
การเล่นเพลงหรือมีเดีย
แตะ 1 ครั้ง ที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อเล่นเพลงหรือหยุดเพลง
แตะ 2 ครั้ง ที่ข้างซ้าย เพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
แตะ 2 ครั้ง ที่ข้างขวา เพื่อเล่นเพลงถัดไป
การรับสายหรือปฏิเสธสายโทรศัพท์
แตะ 1 ครั้ง ที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งเพื่อรับสายและวางสาย
แตะค้าง 2 วินาที ที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อปฏิเสธสาย
การเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC)
แตะค้าง 2 วินาที ที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อสลับระหว่าง 3 โหมด
โดยหูฟังจะเริ่มต้นที่ เปิดโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) , แตะค้าง 2 วินาที สลับไปปิดโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC), แตะค้าง 2 วินาที สลับไปเปิด Transparency Mode (โหมดที่ได้ยินเสียงภายนอก)
*การสลับโหมดเหล่านี้จะต้องสวมใส่หูฟังทั้ง 2 ข้าง
การเปิด Low Latency Mode สำหรับการเล่นเกม
แตะ 3 ครั้ง ที่ข้างขวา เพื่อเปิด Low Latency Mode จะทำให้เสียงเกมไม่ดีเลย์
การเรียกผู้ช่วย Siri หรือ Google Assistance
แตะ 3 ครั้งที่ข้างซ้าย เพื่อเรียก Siri หรือ Google Assistance
คุณภาพเสียงและประสบการณ์การใช้งาน
คุณภาพเสียงจากการฟังเพลงพบว่า เสียงกลางขับได้ค่อนข้างดี ส่วนเสียงสูงเมื่อลองฟังเสียงสูงมาก ๆ พบว่ายังขับได้ไม่สุด และเสียงเบสก็ยังไม่หนักมาก หากเทียบกับ AirPods Pro แต่โดยรวมแล้วถือว่าคุณภาพเสียงดีคุ้มค่ากับราคา
การตัดเสียงรบกวน
เมื่อเปิดการตัดเสียงรบกวน (ANC: Active Noise Cancelling) แล้ว ภายในหูฟังจะได้ยินเสียงรบกวนภายนอกน้อยลงหรือเสียงภายนอกที่ไม่ได้ดังมาก อย่างเช่น เสียงคนพูดปกติ เสียงรถการจราจรทั่วไป ภายในหูฟังก็จะไม่ค่อยได้ยิน
เมื่อปิดการตัดเสียงรบกวน เราก็จะได้ยินเสียงภายนอกชัดขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับดังมาก หากเปิดเพลงฟังไปด้วย เสียงรบกวนภายนอกก็เข้ามาไม่ชัดมากนัก
และถ้าหากเราสลับไปยัง Transparency Mode หูฟังตัวนี้ก็จะเปิดรับเสียงภายนอก แต่ก็เสียงภายนอกก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัก ซึ่งโหมดนี้จะเหมาะกับเวลาที่เราต้องการได้ยินเสียงภายนอก เช่น เดินข้างถนนก็เปิด Transparency Mode ไว้ เพื่อให้ได้ยินเสียงภายนอก ป้องกันการเกิดอันตรายบนท้องถนน เป็นต้น
สำหรับการรับชมภาพยนตร์และการเล่นเกมร่วมกับเปิด Low Latency Mode พบว่าโหมดนี้จะช่วยให้เสียงตรงกับภาพ ไม่ดีเลย์ ก็ช่วยให้การเล่นเกมและการรับชมภาพยนตร์สนุกและได้อรรถรถที่ดี
Features :
-
มีฟังก์ชันหรือโหมดการใช้งานค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น โหมดตัดเสียงรบกวน (ANC), โหมด Transparency สำหรับใส่หูฟังในสถานที่ที่ต้องฟังเสียงภายนอก และมีโหมด Low Latency สำหรับเล่นเกมที่ลดการดีเลย์ได้อย่างดี เมื่อเทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามาก
-
มีคุณสมบัติการกันน้ำระดับ IPX5 ทนต่อน้ำแรงดันต่ำ สามารถสวมใส่ออกกำลังกายทั่วไปได้
-
การควบคุมด้วยระบบแตะสัมผัส ทำให้การใช้งานแบบไร้สายสะดวกมาก
-
ใช้งานได้อย่างอิสระ สามารถสวมใส่ข้างเดียวได้ด้วย
-
เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด และอยากได้หูฟังแบบ True Wireless ที่มีการตัดเสียงรบกวนไว้สวมใส่